facebook
Home > Entertainment > Streaming > รีวิว อย่ากลับบ้าน ซีรีส์ไทยทาง Netflix พล็อตสุดล้ำ เซอร์ไพรส์ทุกตอน สุดยอดการแสดงโดย นุ่น วรนุช
รีวิว อย่ากลับบ้าน ซีรีส์ไทยทาง Netflix พล็อตสุดล้ำ เซอร์ไพรส์ทุกตอน สุดยอดการแสดงโดย นุ่น วรนุช

หลายครั้ง หลายครา… เรามักจะอกหักและผิดหวังกับหนังหรือซีรีส์ ที่เปิดตัวอย่างมาอย่างดี แต่พอเอาเข้าจริงพล็อตกับไม่เข้าท่า แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับ อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home) คอนเทนต์ไทยที่ PR น้อยมาก แต่ติดอันดับทั้งไทยและทั่วโลกบน Netflix อยู่ตอนนี้ ขอการันตีว่านี้คือของดี ที่คุณห้ามเลื่อนผ่าน นานทีปีหนจะมีอะไรดี ๆ แบบนี้ให้ดู แค่การกลับมาของนางเอกตลอดกาลอย่าง นุ่น วรนุช ก็แทบไม่ต้องลังเลแล้ว จะเด็ดแค่ไหน ไปลุยรีวิวกันเลย

Relate article
มัดรวม 8 ซีรีส์วายแนวแฟนตาซี โลกแห่งจินตนาการ ที่ห้ามพลาด!
Agatha All Along และซีรีส์แม่มดน่าดูในสตรีมมิ่ง

ซีรีส์แนวระทึกขวัญ-ลึกลับของไทย “อย่ากลับบ้าน” (Don’t Come Home) ได้เข้าฉายบน Netflix และได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ซีรีส์เรื่องนี้ติดอันดับ 3 บนชาร์ต Top 10 ซีรีส์ต่างประเทศในหมวดภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และได้รับความนิยมในกว่า 39 ประเทศทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นซีรีส์ไทยที่ประสบความสำเร็จระดับสากล ด้วยพล็อตที่เข้มข้น เนื้อหาลึกซึ้ง และการแสดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพโดยเฉพาะ นุ่น วรนุช ซึ่งเธอทำให้บทบาทของ “วารี” น่าสนใจและชวนติดตามไปตลอด

Spoiler Alert!!! บทความนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วนจากในซีรีส์

Lifestyle Asia rating: 5/5 (จากใจติ่งหนัง Horror, Sci Fi และแฟนด้อมของนางเอกในดวงใจ)

ประเภท: โดนหลอกจากตัวอย่างว่าเป็นแนวผี ดูไปดูมา เริ่มมีกลิ่นความลึกลับปริศนาแปลก ๆ ชวนฉงนสงสัย กลายเป็น Sci Fi ย้อนเวลาซะอย่างนั้น แถมดราม่าแม่ลูกก็จัดเต็ม น่าสงสารนางเอกสุด ๆ

นักแสดงนำ:

  • นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท วารี
  • เจแปน-พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร รับบท มิน
  • แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท ฟ้า
  • ซินดี้-สิรินยา บิชอพ รับบท พนิดา

ผู้กำกับ: วุฒิดนัย อินทรเกษตร

จำนวนตอนทั้งหมด: 6 ตอน

ความยาวต่อตอน: ประมาณ 40 นาที

ดูได้ที่ไหน: Netflix

ดูได้เมื่อไหร่: 31 ตุลาคม 2567

นุ่น วรนุช
Photo Credit: Courtesy of Netflix

เราชอบอะไรในซีรีส์เรื่องนี้

  • การแสดงที่ทรงพลังและไหลลื่นของ นุ่น วรนุช
    นุ่น วรนุช รับบทเป็น “วารี” คุณแม่ที่แข็งแกร่งและพยายามปกป้องลูกอย่างเต็มที่ การแสดงที่เป็นธรรมชาติและลึกซึ้งของนุ่นทำให้ผู้ชมเชื่อและอินไปกับบทบาทของเธอ โดยเฉพาะฉากดราม่าท้าย ๆ เรื่อง ที่เธอแสดงร่วมกับ “พนิดา” (ซินดี้ สิรินยา) ผู้ชมสามารถสัมผัสถึงความไม่อยากสูญเสียลูกอันเป็นที่รักได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้น เจแปน พลอยปภัส ที่รับบทเป็นลูกสาวของวารีก็แสดงได้อย่างสมจริง จนทำให้ฉากความกลัวและอารมณ์อ่อนโยนในบทของเธอมีความหมายและส่งต่อความรู้สึกให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี
  • พล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยความลับและเซอร์ไพรส์
    เรื่องราวของ “อย่ากลับบ้าน” ถูกออกแบบมาอย่างละเอียดประณีตด้วยเนื้อหาที่หลากหลายตั้งแต่แนวสยองขวัญจนถึงดราม่าครอบครัว ทำให้ซีรีส์ไม่จำเจและมีความลุ้นในทุกตอน นอกจากนี้ การเชื่อมโยงระหว่างตัวละครและการนำเสนอเหตุการณ์ลึกลับเป็นปริศนาชวนให้ผู้ชมต้องติดตามทุก ๆ EP
  • งานสร้างคุณภาพและเทคนิคงานภาพเสมือนจริง
    ซีรีส์นี้ใช้ CG และเทคนิค Virtual Studio เพื่อเพิ่มความสมจริงให้ฉากต่าง ๆ เช่น ฉากบ้านจารึกอนันต์และเขื่อนที่มีรายละเอียดชัดเจน เพิ่มความสยองและมิติที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมหลุดเข้าไปในโลกของซีรีส์ได้อย่างแท้จริง

 

เราไม่ชอบตรงไหน

  • บางฉากมีจังหวะการเล่าเรื่องที่ช้าจนเกินไป
    ในช่วงเริ่มต้นของซีรีส์ ใน EP 1 เนื้อเรื่องอาจมีการปูมาช้าและหน่วงไปบ้าง โดยเฉพาะในฉากแนะนำตัวละครและฉากเปิดเรื่อง ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อและไม่อินได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเนื้อเรื่องเข้าสู่จุดคลี่คลาย ซีรีส์กลับมาสนุกและเร้าใจจนจบ
  • บางจุดมีจุดบกพร่องในพล็อตที่น่าคิดตาม
    เนื่องจากเนื้อเรื่องเล่นกับลูปเวลาและการย้อนรอย ทำให้บางส่วนของพล็อตมีจุดบกพร่องอยู่เล็กน้อยเมื่อคิดตามดูดี ๆ แต่ก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ที่ไม่ถึงกับทำให้เรื่องราวเสียหาย

 

เนื้อเรื่องย่อ

“อย่ากลับบ้าน” เปิดเรื่องราวของ วารี (รับบทโดย นุ่น วรนุช) ผู้เป็นแม่ที่พยายามหลีกหนีจากความรุนแรงในครอบครัวของสามีเธอ วารีพาลูกสาววัยเด็ก “มิน” (รับบทโดย เจแปน พลอยปภัส) กลับมาบ้านเก่าชื่อ “บ้านจารึกอนันต์” ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่เมื่อ 30 ปีก่อน ที่นั่นพวกเธอได้เผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ จนวันหนึ่ง มินหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้ สารวัตรฟ้า (รับบทโดย แพร พิชชาภา) ต้องเข้ามาสืบสวนคดี การสืบสวนเริ่มเผยความลับลึกลับของบ้านหลังนี้ขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ผู้ชมสงสัยว่า “บ้านจารึกอนันต์” มีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่บ้าง และทำไมถึงต้อง “อย่ากลับบ้าน?”

ครอบครัวและความเป็นแม่

นุ่น วรนุช
Photo Credit: Courtesy of Netflix

ประเด็นนี้ถือว่าเป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้ เพราะเนื้อหาของ “อย่ากลับบ้าน” บอกเล่าเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับความรักและความห่วงใยของ “วารี” (นุ่น วรนุช) ที่มีต่อลูกสาวของเธอ “มิน” ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกในเรื่องนี้ถูกนำเสนอในแง่ของการเสียสละและการปกป้อง ด้วยสถานการณ์ในครอบครัวที่บีบบังคับให้วารีต้องหลบหนีจากสามีที่เป็นคนรุนแรง เธอเลือกที่จะปกป้องลูกสาวโดยการพามินหนีไปยังบ้านเก่าของครอบครัว

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังสะท้อนถึงความเจ็บปวดและความกลัวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นประเด็นที่สะท้อนปัญหาสังคมอย่างดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและเข้าใจถึงแรงผลักดันที่ทำให้วารีเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกสาว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งลึกลับและอันตรายที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนั้น

ซีรีส์ยังเน้นความท้าทายของความเป็นแม่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ทำให้เราเห็นว่าแม่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกปลอดภัย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวหรือเสี่ยงชีวิต ประเด็นนี้ทำให้ซีรีส์มีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ซีรีส์ระทึกขวัญทั่วไป แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์และอารมณ์ที่มีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ชม

การเล่นกับลูปเวลาและเส้นเรื่องทับซ้อน

นุ่น วรนุช
Photo Credit: Courtesy of Netflix

“อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ที่มีการใช้ลูปเวลาเป็นโครงสร้างหลักในการเล่าเรื่อง ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความลึกลับและซับซ้อน ตัวละครในเรื่องต้องเผชิญกับการทับซ้อนของเส้นเวลาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งใน อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่น การเล่าเรื่องที่สลับไปมาระหว่างช่วงเวลาที่วารีเคยอยู่ในบ้านจารึกอนันต์เมื่อ 30 ปีก่อนและช่วงเวลาปัจจุบันที่เธอพาลูกสาวกลับมา ทำให้ผู้ชมต้องคอยสังเกตและเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ เอง ซึ่งกลายเป็นการท้าทายให้คนดูได้ใช้ความคิดและสติ กลายเป็นความสนุกตลอดการรับชม

การเล่นกับลูปเวลานี้ยังทำให้เกิดความลึกลับและเพิ่มความระทึกใจแก่เรื่องราว ผู้ชมต้องพยายามเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครในสองช่วงเวลา ทำให้เกิดปริศนาและความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านจารึกอนันต์ ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นส่งผลอย่างไรต่อชะตากรรมของตัวละครหลักบ้าง การเล่นกับเส้นเวลาทับซ้อนในซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว แต่ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกท้าทายและต้องติดตามซีรีส์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบที่ซ่อนอยู่

 

ความหมายเชิงสัญลักษณ์ผ่านตัวละครและสถานที่

นุ่น วรนุช
Photo Credit: Courtesy of Netflix

ซีรีส์ “อย่ากลับบ้าน” มีการแฝงสัญญะที่ลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของการตั้งชื่อตัวละครและรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ชื่อตัวละคร “วารี” ซึ่งหมายถึง สายน้ำ ถูกสื่อถึงความหมายเชิงลึกว่า “เวลาและวารีไม่เคยรอใคร” เป็นการสื่อถึงความไม่แน่นอนและความเปลี่ยนแปลงที่ตัวละครต้องเผชิญ ในขณะที่ชื่อของ “มิน” ลูกสาวของวารีก็มีความหมายเชิงสัญลักษณ์เช่นกัน เพราะ “มิน” หมายถึง ปลา สะท้อนถึงการพึ่งพาและความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ของแม่ลูกคู่นี้

ในแง่ของสถานที่ “บ้านจารึกอนันต์” ก็มีความสำคัญในฐานะสัญลักษณ์เช่นกัน บ้านเก่าหลังนี้ไม่ใช่เพียงบ้านธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่เก็บงำความลับอันดำมืดและเชื่อมโยงกับอดีตที่ผ่านไปนานกว่า 30 ปี ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีชีวิตและมีความน่ากลัวในตัวเอง การออกแบบฉากและการเช็ตสถานที่ในบ้านจารึกอนันต์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและหวาดกลัวตลอดการรับชม สัญญะต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในบ้าน เช่น ห้องลับ หรือเวลาที่นาฬิกาหยุดเดิน ก็เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ชมรู้สึกถึงความลึกลับและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

งานสร้างสรรค์และเทคนิคการถ่ายทำระดับสากล

นุ่น วรนุช
Photo Credit: Courtesy of Netflix

ซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องในด้านการใช้เทคนิคการถ่ายทำและ CG ที่สมจริง ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศลึกลับและน่ากลัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉากที่มีการใช้ CG ในการเนรมิตบรรยากาศ เช่น ฉากเขื่อนและบ้านจารึกอนันต์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดและสมจริง ทีมผู้สร้างได้ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างใยแมงมุมที่อยู่ในเครื่องปั่นไฟหน้าบ้าน เพื่อเสริมบรรยากาศความลึกลับและความเก่าแก่ของสถานที่นี้

นอกจากนั้น การใช้เทคนิค Virtual Studio ซึ่ง Netflix นำมาใช้ในการถ่ายทำ โดยเฉพาะในฉากที่ตัวละครขับรถผ่านพื้นที่ที่ยากลำบาก เทคนิคนี้ไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักแสดง แต่ยังช่วยให้ผู้สร้างสามารถควบคุมบรรยากาศและฉากหลังได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสมจริงและความสะดวกในการสร้างภาพให้เป็นไปตามที่ผู้กำกับต้องการ ทีมโปรดักชันยังมีการออกแบบและสร้างฉากในสตูดิโอเพื่อให้บ้านจารึกอนันต์ดูมีชีวิตชีวาและสมจริง เช่น พื้นกระเบื้องที่พิมพ์ลายขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในอดีตที่บ้านถูกทิ้งร้างมา 30 ปี การทำงานอย่างละเอียดและประณีตในส่วนของโปรดักชันทำให้ซีรีส์นี้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับซีรีส์ระดับสากลและดึงดูดผู้ชมได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ

“อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ไทยที่สร้างความประทับใจในหลาย ๆ ด้าน ด้วยพล็อตที่มีความซับซ้อนและไม่ธรรมดา ตัวละครที่มีมิติ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำโดยเฉพาะ นุ่น วรนุช นอกจากนี้การใช้เทคนิค CG และ Virtual Studio ในการสร้างบรรยากาศและรายละเอียดของฉาก ทำให้ซีรีส์นี้น่าสนใจและมีคุณภาพระดับสากล ใครที่กำลังมองหาซีรีส์ที่มีเนื้อหาเข้มข้นกินใจและสอดแทรกความรู้สึกหลอนแบบไม่ซ้ำใคร “อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด

 

อ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องบันเทิงสนุก ๆ ได้ ที่นี่ เลย

Main, Hero and Featured images: Courtesy of Netflix

 

Note:
The information in this article is accurate as of the date of publication.

Written by

รีวิว อย่ากลับบ้าน ซีรีส์ไทยทาง Netflix พล็อตสุดล้ำ เซอร์ไพรส์ทุกตอน สุดยอดการแสดงโดย นุ่น วรนุช

ทาสแมว Introvert (INFJ-T) ที่หลงใหลในการเดินทางท่องเที่ยว ค้นพบจุดหมายปลายทางใหม่ๆ บนเส้นทางที่ไม่ซ้ำใคร แบบ Solo Traveller กับ Notebook คู่กายพร้อม Work any comfort where, แฟนนางงาม , คลั่งใคร่การดูหนังในโรง IMAX, Passion ที่ขับเคลื่อนด้วย ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ บทเพลง คอนเสิร์ต...ปล. อยากไป New York และงาน Oscar สักครั้ง! สมการชีวิตที่เรียบง่าย (+)(-)(×)(÷)(²)(√) อย่าคิดเยอะ = ความสุข

   
Sign up for our newsletters to have the latest stories delivered straight to your inbox every week.

Yes, I agree to the Privacy Policy

Most Popular