หลายครั้ง หลายครา… เรามักจะอกหักและผิดหวังกับหนังหรือซีรีส์ ที่เปิดตัวอย่างมาอย่างดี แต่พอเอาเข้าจริงพล็อตกับไม่เข้าท่า แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับ อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home) คอนเทนต์ไทยที่ PR น้อยมาก แต่ติดอันดับทั้งไทยและทั่วโลกบน Netflix อยู่ตอนนี้ ขอการันตีว่านี้คือของดี ที่คุณห้ามเลื่อนผ่าน นานทีปีหนจะมีอะไรดี ๆ แบบนี้ให้ดู แค่การกลับมาของนางเอกตลอดกาลอย่าง นุ่น วรนุช ก็แทบไม่ต้องลังเลแล้ว จะเด็ดแค่ไหน ไปลุยรีวิวกันเลย
Relate article
มัดรวม 8 ซีรีส์วายแนวแฟนตาซี โลกแห่งจินตนาการ ที่ห้ามพลาด!
Agatha All Along และซีรีส์แม่มดน่าดูในสตรีมมิ่ง
ซีรีส์แนวระทึกขวัญ-ลึกลับของไทย “อย่ากลับบ้าน” (Don’t Come Home) ได้เข้าฉายบน Netflix และได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ซีรีส์เรื่องนี้ติดอันดับ 3 บนชาร์ต Top 10 ซีรีส์ต่างประเทศในหมวดภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และได้รับความนิยมในกว่า 39 ประเทศทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นซีรีส์ไทยที่ประสบความสำเร็จระดับสากล ด้วยพล็อตที่เข้มข้น เนื้อหาลึกซึ้ง และการแสดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพโดยเฉพาะ นุ่น วรนุช ซึ่งเธอทำให้บทบาทของ “วารี” น่าสนใจและชวนติดตามไปตลอด
Spoiler Alert!!! บทความนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วนจากในซีรีส์
Lifestyle Asia rating: 5/5 (จากใจติ่งหนัง Horror, Sci Fi และแฟนด้อมของนางเอกในดวงใจ)
ประเภท: โดนหลอกจากตัวอย่างว่าเป็นแนวผี ดูไปดูมา เริ่มมีกลิ่นความลึกลับปริศนาแปลก ๆ ชวนฉงนสงสัย กลายเป็น Sci Fi ย้อนเวลาซะอย่างนั้น แถมดราม่าแม่ลูกก็จัดเต็ม น่าสงสารนางเอกสุด ๆ
นักแสดงนำ:
- นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท วารี
- เจแปน-พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร รับบท มิน
- แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท ฟ้า
- ซินดี้-สิรินยา บิชอพ รับบท พนิดา
ผู้กำกับ: วุฒิดนัย อินทรเกษตร
จำนวนตอนทั้งหมด: 6 ตอน
ความยาวต่อตอน: ประมาณ 40 นาที
ดูได้ที่ไหน: Netflix
ดูได้เมื่อไหร่: 31 ตุลาคม 2567
เราชอบอะไรในซีรีส์เรื่องนี้
- การแสดงที่ทรงพลังและไหลลื่นของ นุ่น วรนุช
นุ่น วรนุช รับบทเป็น “วารี” คุณแม่ที่แข็งแกร่งและพยายามปกป้องลูกอย่างเต็มที่ การแสดงที่เป็นธรรมชาติและลึกซึ้งของนุ่นทำให้ผู้ชมเชื่อและอินไปกับบทบาทของเธอ โดยเฉพาะฉากดราม่าท้าย ๆ เรื่อง ที่เธอแสดงร่วมกับ “พนิดา” (ซินดี้ สิรินยา) ผู้ชมสามารถสัมผัสถึงความไม่อยากสูญเสียลูกอันเป็นที่รักได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้น เจแปน พลอยปภัส ที่รับบทเป็นลูกสาวของวารีก็แสดงได้อย่างสมจริง จนทำให้ฉากความกลัวและอารมณ์อ่อนโยนในบทของเธอมีความหมายและส่งต่อความรู้สึกให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี - พล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยความลับและเซอร์ไพรส์
เรื่องราวของ “อย่ากลับบ้าน” ถูกออกแบบมาอย่างละเอียดประณีตด้วยเนื้อหาที่หลากหลายตั้งแต่แนวสยองขวัญจนถึงดราม่าครอบครัว ทำให้ซีรีส์ไม่จำเจและมีความลุ้นในทุกตอน นอกจากนี้ การเชื่อมโยงระหว่างตัวละครและการนำเสนอเหตุการณ์ลึกลับเป็นปริศนาชวนให้ผู้ชมต้องติดตามทุก ๆ EP - งานสร้างคุณภาพและเทคนิคงานภาพเสมือนจริง
ซีรีส์นี้ใช้ CG และเทคนิค Virtual Studio เพื่อเพิ่มความสมจริงให้ฉากต่าง ๆ เช่น ฉากบ้านจารึกอนันต์และเขื่อนที่มีรายละเอียดชัดเจน เพิ่มความสยองและมิติที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมหลุดเข้าไปในโลกของซีรีส์ได้อย่างแท้จริง
เราไม่ชอบตรงไหน
- บางฉากมีจังหวะการเล่าเรื่องที่ช้าจนเกินไป
ในช่วงเริ่มต้นของซีรีส์ ใน EP 1 เนื้อเรื่องอาจมีการปูมาช้าและหน่วงไปบ้าง โดยเฉพาะในฉากแนะนำตัวละครและฉากเปิดเรื่อง ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อและไม่อินได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเนื้อเรื่องเข้าสู่จุดคลี่คลาย ซีรีส์กลับมาสนุกและเร้าใจจนจบ - บางจุดมีจุดบกพร่องในพล็อตที่น่าคิดตาม
เนื่องจากเนื้อเรื่องเล่นกับลูปเวลาและการย้อนรอย ทำให้บางส่วนของพล็อตมีจุดบกพร่องอยู่เล็กน้อยเมื่อคิดตามดูดี ๆ แต่ก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ที่ไม่ถึงกับทำให้เรื่องราวเสียหาย
เนื้อเรื่องย่อ
“อย่ากลับบ้าน” เปิดเรื่องราวของ วารี (รับบทโดย นุ่น วรนุช) ผู้เป็นแม่ที่พยายามหลีกหนีจากความรุนแรงในครอบครัวของสามีเธอ วารีพาลูกสาววัยเด็ก “มิน” (รับบทโดย เจแปน พลอยปภัส) กลับมาบ้านเก่าชื่อ “บ้านจารึกอนันต์” ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่เมื่อ 30 ปีก่อน ที่นั่นพวกเธอได้เผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ จนวันหนึ่ง มินหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้ สารวัตรฟ้า (รับบทโดย แพร พิชชาภา) ต้องเข้ามาสืบสวนคดี การสืบสวนเริ่มเผยความลับลึกลับของบ้านหลังนี้ขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ผู้ชมสงสัยว่า “บ้านจารึกอนันต์” มีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่บ้าง และทำไมถึงต้อง “อย่ากลับบ้าน?”
ครอบครัวและความเป็นแม่
ประเด็นนี้ถือว่าเป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้ เพราะเนื้อหาของ “อย่ากลับบ้าน” บอกเล่าเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับความรักและความห่วงใยของ “วารี” (นุ่น วรนุช) ที่มีต่อลูกสาวของเธอ “มิน” ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกในเรื่องนี้ถูกนำเสนอในแง่ของการเสียสละและการปกป้อง ด้วยสถานการณ์ในครอบครัวที่บีบบังคับให้วารีต้องหลบหนีจากสามีที่เป็นคนรุนแรง เธอเลือกที่จะปกป้องลูกสาวโดยการพามินหนีไปยังบ้านเก่าของครอบครัว
นอกจากนี้ ซีรีส์ยังสะท้อนถึงความเจ็บปวดและความกลัวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นประเด็นที่สะท้อนปัญหาสังคมอย่างดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและเข้าใจถึงแรงผลักดันที่ทำให้วารีเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกสาว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งลึกลับและอันตรายที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนั้น
ซีรีส์ยังเน้นความท้าทายของความเป็นแม่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ทำให้เราเห็นว่าแม่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกปลอดภัย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวหรือเสี่ยงชีวิต ประเด็นนี้ทำให้ซีรีส์มีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ซีรีส์ระทึกขวัญทั่วไป แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์และอารมณ์ที่มีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ชม
การเล่นกับลูปเวลาและเส้นเรื่องทับซ้อน
“อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ที่มีการใช้ลูปเวลาเป็นโครงสร้างหลักในการเล่าเรื่อง ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความลึกลับและซับซ้อน ตัวละครในเรื่องต้องเผชิญกับการทับซ้อนของเส้นเวลาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งใน อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่น การเล่าเรื่องที่สลับไปมาระหว่างช่วงเวลาที่วารีเคยอยู่ในบ้านจารึกอนันต์เมื่อ 30 ปีก่อนและช่วงเวลาปัจจุบันที่เธอพาลูกสาวกลับมา ทำให้ผู้ชมต้องคอยสังเกตและเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ เอง ซึ่งกลายเป็นการท้าทายให้คนดูได้ใช้ความคิดและสติ กลายเป็นความสนุกตลอดการรับชม
การเล่นกับลูปเวลานี้ยังทำให้เกิดความลึกลับและเพิ่มความระทึกใจแก่เรื่องราว ผู้ชมต้องพยายามเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครในสองช่วงเวลา ทำให้เกิดปริศนาและความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านจารึกอนันต์ ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นส่งผลอย่างไรต่อชะตากรรมของตัวละครหลักบ้าง การเล่นกับเส้นเวลาทับซ้อนในซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว แต่ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกท้าทายและต้องติดตามซีรีส์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบที่ซ่อนอยู่
ความหมายเชิงสัญลักษณ์ผ่านตัวละครและสถานที่
ซีรีส์ “อย่ากลับบ้าน” มีการแฝงสัญญะที่ลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของการตั้งชื่อตัวละครและรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ชื่อตัวละคร “วารี” ซึ่งหมายถึง สายน้ำ ถูกสื่อถึงความหมายเชิงลึกว่า “เวลาและวารีไม่เคยรอใคร” เป็นการสื่อถึงความไม่แน่นอนและความเปลี่ยนแปลงที่ตัวละครต้องเผชิญ ในขณะที่ชื่อของ “มิน” ลูกสาวของวารีก็มีความหมายเชิงสัญลักษณ์เช่นกัน เพราะ “มิน” หมายถึง ปลา สะท้อนถึงการพึ่งพาและความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ของแม่ลูกคู่นี้
ในแง่ของสถานที่ “บ้านจารึกอนันต์” ก็มีความสำคัญในฐานะสัญลักษณ์เช่นกัน บ้านเก่าหลังนี้ไม่ใช่เพียงบ้านธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่เก็บงำความลับอันดำมืดและเชื่อมโยงกับอดีตที่ผ่านไปนานกว่า 30 ปี ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีชีวิตและมีความน่ากลัวในตัวเอง การออกแบบฉากและการเช็ตสถานที่ในบ้านจารึกอนันต์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและหวาดกลัวตลอดการรับชม สัญญะต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในบ้าน เช่น ห้องลับ หรือเวลาที่นาฬิกาหยุดเดิน ก็เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ชมรู้สึกถึงความลึกลับและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
งานสร้างสรรค์และเทคนิคการถ่ายทำระดับสากล
ซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องในด้านการใช้เทคนิคการถ่ายทำและ CG ที่สมจริง ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศลึกลับและน่ากลัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉากที่มีการใช้ CG ในการเนรมิตบรรยากาศ เช่น ฉากเขื่อนและบ้านจารึกอนันต์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดและสมจริง ทีมผู้สร้างได้ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างใยแมงมุมที่อยู่ในเครื่องปั่นไฟหน้าบ้าน เพื่อเสริมบรรยากาศความลึกลับและความเก่าแก่ของสถานที่นี้
นอกจากนั้น การใช้เทคนิค Virtual Studio ซึ่ง Netflix นำมาใช้ในการถ่ายทำ โดยเฉพาะในฉากที่ตัวละครขับรถผ่านพื้นที่ที่ยากลำบาก เทคนิคนี้ไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักแสดง แต่ยังช่วยให้ผู้สร้างสามารถควบคุมบรรยากาศและฉากหลังได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสมจริงและความสะดวกในการสร้างภาพให้เป็นไปตามที่ผู้กำกับต้องการ ทีมโปรดักชันยังมีการออกแบบและสร้างฉากในสตูดิโอเพื่อให้บ้านจารึกอนันต์ดูมีชีวิตชีวาและสมจริง เช่น พื้นกระเบื้องที่พิมพ์ลายขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในอดีตที่บ้านถูกทิ้งร้างมา 30 ปี การทำงานอย่างละเอียดและประณีตในส่วนของโปรดักชันทำให้ซีรีส์นี้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับซีรีส์ระดับสากลและดึงดูดผู้ชมได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ
“อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ไทยที่สร้างความประทับใจในหลาย ๆ ด้าน ด้วยพล็อตที่มีความซับซ้อนและไม่ธรรมดา ตัวละครที่มีมิติ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำโดยเฉพาะ นุ่น วรนุช นอกจากนี้การใช้เทคนิค CG และ Virtual Studio ในการสร้างบรรยากาศและรายละเอียดของฉาก ทำให้ซีรีส์นี้น่าสนใจและมีคุณภาพระดับสากล ใครที่กำลังมองหาซีรีส์ที่มีเนื้อหาเข้มข้นกินใจและสอดแทรกความรู้สึกหลอนแบบไม่ซ้ำใคร “อย่ากลับบ้าน” เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด
อ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องบันเทิงสนุก ๆ ได้ ที่นี่ เลย
Main, Hero and Featured images: Courtesy of Netflix